คาร์เทียร์ (Cartier) แบรนด์เครื่องประดับและนาฬิกาสัญชาติฝรั่งเศส จัดงาน Exhibition เครื่องประดับชั้นสูงระดับภูมิภาคเป็นครั้งแรก ณ เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย โดยมีผลงานการสร้างสรรค์กว่า 300 ชิ้นอันประกอบไปด้วยเครื่องประดับชั้นสูง, เรือนเวลาชั้นสูง, เรือนเวลาประดับอัญมณีชั้นสูง, และผลงานจากคอลเลคชั่น Cartier Tradition ได้ถูกนำมาจัดแสดงในโอกาสพิเศษนี้ โดย ต่อ ธนภพ Cartier Ambassador จากประเทศไทย และ ปอย ตรีชฎา ได้เข้าร่วมงานครั้งนี้พร้อมสวมใส่เครื่องประดับจากคาร์เทียร์
คาร์เทียร์มีความผูกพันอันยาวนานและลึกซึ้งกับประเทศออสเตรเลีย และเพื่อสานต่อความสัมพันธ์ดังกล่าว Sydney Opera House หนึ่งในสถานที่ไอคอนิคและมีชื่อเสียงมากที่สุดสำหรับศิลปะการแสดงของโลกจึงได้กลายมาเป็นสถานที่สำหรับจัดงานกาล่า แสนเอ็กซ์คลูซีฟในครั้งนี้ โดยแขกผู้มีเกียรติคนสำคัญของเมซงได้รับเชิญจากคุณ ญานีน่า โนวิทสกาญ่า (Yanina Novitskaya) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารคาร์เทียร์ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย และคุณ Alban du Mesnil กรรมการผู้จัดการคาร์เทียร์ภูมิภาคโอเชียเนีย เพื่อเข้าร่วมสัมผัสหัวใจของการออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ของคาร์เทียร์ที่จัดขึ้น ณ สถานที่อันเป็นมรดกโลกตลอดจนเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นเลิศทางด้านศิลปะ
แขกผู้มีเกียรติได้รับการต้อนรับจาก Cartier Bell Boy ก่อนที่จะเข้าร่วมรับประทานอาหารเย็นและดื่มด่ำไปกับช่วงเวลาอันแสนพิเศษ พร้อมรับชมการแสดงจากนักเปียโนชื่อดังอย่าง Van Anh Nyugen, Cathy Di-Zhang นักร้องโซปราโน และการแสดงจาก Sydney Dance Company ที่สนับสนุนโดย Chorus Collective ซึ่งเป็นบริษัทชั้นน้ำที่โดดเด่นทางด้านการเต้นรำร่วมสมัยของออสเตรเลีย
ในครั้งนี้ ต่อ ธนภพ ลีรัตขจร ได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของค่ำคืนอันน่าจดจำในฐานะ ‘Cartier Ambassador’ จากประเทศไทย โดยมาในลุคทักซิโด้สีดำ เพิ่มความหรูหราด้วยเครื่องประดับในคอลเลคชั่นต่างๆ ของคาร์เทียร์ไม่ว่าจะเป็นเข็มกลัดไวท์โกลด์ประดับมรกต, ออนิกซ์, และเพชร จากคอลเลคชั่นเครื่องประดับชั้นสูง ปองแตร์ เดอ คาร์เทียร์ (Panthère de Cartier), แหวนเยลโลว์โกลด์ โรสโกลด์ และไวท์โกลด์ จากคอลเลคชั่น ทรินิตี้ (Trinity), แหวนไวท์โกลด์ฝังเพชร จากคอลเลคชั่น เลิฟ (Love) พร้อมทั้งสวมใส่เรือนเวลา พาช่า เดอ คาร์เทียร์ (Pasha de Cartier)
สำหรับ ปอย ตรีชฎา เพชรรัตน์ เข้าร่วมงานกาล่าดินเนอร์ในลุคแสนโดดเด่น ด้วยชุดเดรสสีดำตัดกับกระโปรงสีชมพูที่มีโบว์ขนาดยักษ์เป็นไฮไลท์พร้อมทั้งยังเสริมความหรูหราด้วยชุดเครื่องประดับเพชรและสร้อยคอไวท์โกลด์ประดับมรกต และออนิกซ์ จากคอลเลคชั่นเครื่องประดับชั้นสูง ปองแตร์ เดอ คาร์เทียร์ (Panthère de Cartier) และต่างหู เครื่องประดับชั้นสูงจากคอลเลคชั่น [SUR]NATUREL
งาน exhibition จัดขึ้น ณ ท่าเรือประวัติศาตร์หมายเลข 2/3 บริเวณปากอ่าวของซิดนีย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในท่าเรือสำคัญ และเคยเป็นพื้นที่สำหรับค้าขายผ้าวูลมาก่อน โดยครั้งนี้ได้รับการแปลงโฉมอย่างสมบูรณ์แบบตลอดระยะเวลาการจัดแสดงโดยสองศิลปินท้องถิ่นชื่อดังอย่าง Jacquie Fink และ Tracey Deep เพื่อการจัดแสดงชิ้นงานอันแสนวิจิตรจากเมซงโดยเฉพาะ โดยผู้เข้าร่วมจะได้ชื่นชมผลงานศิลปะของศิลปินไปพร้อมๆ กับเดินทางเข้าสู่จักรวาลของไฮจิวเวลรี และค้นพบสไตล์ที่โดดเด่นของเมซงตลอดจนชิ้นงานที่ผสมผสานเข้ากับพลังของประเทศออสเตรเลียอย่างประณีต ซึ่งรวมไปถึงผลงานศิลปะการจัดวางขนสัตว์ (woolen art installation) อันแสนทรงพลังที่รังสรรค์โดย Jacquie Fink ซึ่งผลงานชิ้นเอกของ Fink ได้ถูกสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อแสดงความเคารพต่อจุดประสงค์เดิมของสถานที่แห่งนี้ซึ่งเคยเป็นหนึ่งในร้านขายผ้าขนสัตว์ที่ตั้งอยู่ ณ เมืองซิดนีย์ ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20
การตกแต่งภายใน exhibition นั้นได้รับแรงบันดาลใจมาจากลักษณะเฉพาะตัวของประเทศออสเตรเลีย ตั้งแต่การใช้สีเอิร์ธโทนของพื้นผิวหินทรายและเฉดสีแดงสดใสที่ชวนให้ระลึกถึงช่องเขา Kimberley อันโด่งดังใน Western Australia โดยรังสรรค์ขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองแก่ Sydney Opera House ซึ่งเป็นความมหัศจรรย์ทางด้านสถาปัตยกรรมของประเทศออสเตรเลียที่รายล้อมไปด้วยความบริสุทธิ์ของน้ำทะเลที่กระทบด้วยแสงอาทิตย์ นอกจากนี้งานศิลปะที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ Tracey Deep ยังที่ได้ถูกรังสรรค์ขึ้นจากวัสดุอินทรีย์ที่ชวนให้นึกถึงภูมิทัศน์ทะเลทรายในออสเตรเลีย เป็นผลงานศิลปะที่สร้างความเชื่อมโยงด้วยการถ่ายทอดเรื่องราวที่สืบทอดต่อกันมาหลายชั่วอายุคน
นอกจากแขกคนสำคัญจากทั่วโลกแล้ว ต่อ ธนภพ และ ปอย ตรีชฎา ยังได้รับเชิญเพื่อเข้าร่วมชมความสวยงามพร้อมสัมผัสประสบการณ์อันแสนตระการตาของการจัดแสดงไฮจิวเวลรีในคอลเลคชั่นต่างๆ ในครั้งนี้เช่นเดียวกัน โดยทั้งสองมาในลุค Casual และเลือกสวมใส่เสื้อผ้าในโทนสีขาวดำที่แสนเรียบง่าย แต่เปี่ยมไปด้วยสไตล์ในแบบฉบับของตนเอง ต่อ ธนภพ ได้เสริมลุคสบายๆ ให้ คอมพลีทยิ่งขึ้นด้วยเครื่องประดับจากคาร์เทียร์หลากหลายคอลเลคชั่นประกอบไปด้วย ชุดเครื่องประดับฝังเพชรสร้อยคอและกำไลข้อมือไวท์โกลด์ จากคอลเลคชั่นเครื่องประดับชั้นสูง แพนเตอร์ เดอ คาร์เทียร์ (Panthère de Cartier), แหวนไวท์โกลด์ฝั่งเพชร และแหวนเยลโลว์โกลด์ จากคอลเลคชั่น เลิฟ (Love) พร้อมเสริมลุคให้ดูน่าสนใจยิ่งขึ้นด้วยเรือนเวลา ซานโตส เดอ คาร์เทียร์ (Santos de Cartier) ที่มีขอบตัวเรือนและตัวเรือนทำจากสตีลและ ADLC สีดำ
ส่วน ปอย ตรีชฎา สวมใส่เบลเซอร์แขนยาวสีขาวและกระโปรงชีฟองยาวสีดำ พร้อมเลือกสวมใส่เซ็ตต่างหู และกำไลข้อมือจาก คอลเลคชั่นแพนเตอร์ เดอ คาร์เทียร์ (Panthère de Cartier)
ส่วนหนึ่งของเครื่องประดับชั้นสูงที่นำมาจัดแสดง
ARCHITECTURE AND PURITY
การเนรมิตจินตนาการให้มีชีวิตด้วยพลังแห่งเส้นสาย เป็นหนึ่งในองค์ประกอบของการสร้างสรรค์ผลงานของคาร์เทียร์ โดยทุกการรังสรรค์เครื่องประดับที่คาร์เทียร์นั้นมีจุดศูนย์กลางอยู่ที่ความบริสุทธิ์ของเส้นสาย ความสมดุลของรูปทรงและปริมาตร การเล่นกับสัดส่วน และผลลัพธ์ของชิ้นงานที่กลมกลืนในทุกส่วน เมื่อนำมาผสานกับรูปทรงเรขาคณิตและความแตกต่าง ทำให้ได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นเครื่องประดับที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเอกลักษณ์ของคาร์เทียร์
สร้อยคอ GRATTACIELO การออกแบบอันทรงพลังผ่านอัญมณีในหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นเพชรหรือมรกตชวนให้นึกถึงสถาปัตยกรรมขนาดเล็กที่เปี่ยมไปด้วยความสมบูรณ์แบบ หินล้ำค่าที่มาในรูปทรงเรขาคณิตได้รับการจัดเรียงในโครงสร้างที่แลดูสะอาดตาซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของคาร์เทียร์ โดยหัวใจของการออกแบบเครื่องประดับชิ้นนี้คือมรกตจากประเทศโคลัมเบียที่ได้รับการเจียระไนด้วยความประณีต อันสะท้อนให้เห็นถึงจี้เพชรอันแสนพิเศษ โดยโครงสร้างในรูปสี่เหลียมจัตุรัสที่ถูกแบ่งออกและทวีคูณเพิ่มขึ้นอย่างไร้ที่สิ้นสุดสร้างความโดดเด่นและความก้องกังวานที่ช่วยดึงดูดสายตามาสู่ผลงานชิ้นนี้ | |
สร้อยคอ MAXIMA คำว่า Maxima มีต้นกำเนิดมาจากภาษาละตินและอารบิก ซึ่งหมายถึงความโอ่อ่า อลังการ และยิ่งใหญ่ที่สุด ถือเป็นชื่อที่เหมาะสมสำหรับสร้อยคอชิ้นนี้ โดยได้รับการออกแบบที่แสดงให้เห็นถึงความหลงใหลในสถาปัตยกรรมของคาร์เทียร์ โดยเพชรจำนวนมากถูกเรียงให้เป็นแถวขนานกันเพื่อสร้างวอลลุมโดยช่องว่างระหว่างอัญมณีแต่ละชิ้นได้ถูกวัดและปรับเทียบเพื่อค้นหาจังหวะ ความสมดุล และให้ความรู้สึกเบา การจัดวางในรูปแบบดังกล่าวยังช่วยสร้างความโดดเด่นให้กับทับทิมที่เป็นจุดเด่นอยู่ตรงกลางทั้งสองชิ้น อีกทั้งยังช่วยกระจายสีสันอันแสนงดงามของผลงานชิ้นนี้อีกด้วย นอกจากนั้นสร้อยคอชิ้นนี้ยังสามารถปรับให้เป็นมงกุฎได้ ตามแบบฉบับดีไซน์ที่มีมาอย่างยาวนานของเมซงในด้านการสร้างสรรค์เครื่องประดับที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ |
GIVING LIFE TO NATURE
คาร์เทียร์หลีกเลี่ยงการสร้างภาพแทนธรรมชาติในแนวโรแมนติกหรือเล่นกับอารมณ์ แต่เลือกที่จะสร้างความสมจริง เชิงสร้างสรรค์ในหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นแบบเสมือนจริงอย่างยิ่ง (hyper-realism), ถ่ายทอดธรรมชาติแบบเกินจริง (stylisation), หรือแบบนามธรรม (abstraction)
สร้อยคอ SPLENDEDS สร้อยคอชิ้นนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากปลากัด ซึ่งถือเป็นแรงบันดาลใจจากสัตว์ชนิดใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อนในคอลเลคชั่นเครื่องประดับของคาร์เทียร์ โดยออกแบบควบคู่ไปกับการรักษาไว้ซึ่งรสนิยมในการออกแบบเชิงนามธรรมอันเป็นสัญลักษณ์ของเมซง สร้อยคออันล้ำค่าเส้นนี้เปรียบเสมือนครีบบางๆ ที่ยาวสละสลวยของปลากัดซึ่งกำลังพริ้วไหวอย่างนุ่มนวลท่ามกลางน้ำตกสปิเนลและเพชรโดยมีลูกปัดร้อยเรียงกันอย่างอ่อนช้อยโดยมีสปิเนลในทรงรีเปรียบเสมือนดั่งลูกแพร์ห้อยประดับอย่างสวยงามและเป็นจังหวะ | |
สร้อยคอ TROVOADA สร้อยคอเส้นนี้ประกอบไปด้วยสปิเนล, โมร่าสีม่วง, และเพชรเม็ดงามที่เรียงรายซ้อนกันมากมายโดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากความซับซ้อนของสีสันที่ปรากฏอยู่บนท้องฟ้าในขณะที่กำลังเผชิญหน้ากับพายุ ความกลมของลูกปัดที่ใช้ทำให้เกิดการตัดกันเล็กน้อยกับแรงทางรูปทรงเลขาคณิตของเพชรพลอยที่ถูกเจียระไนอย่างประณีตเป็นทรงวงรีและโลเสงเจส (หรือสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน) โดยทุกองค์ประกอบของผลงานชิ้นเอกชิ้นนี้ได้ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อมอบความรู้สึกของความเคลื่อนไหวที่ลื่นไหลอย่างเป็นธรรมชาติ |
CARTIER TRADITION
ความมุ่งมั่นของคาร์เทียร์คือการสืบทอดพันธกิจในฐานะของผู้สร้างสรรค์เครื่องประดับที่เปี่ยมไปด้วยอัญมณีอันล้ำค่า โดย Cartier Tradition ได้นำเสนอชิ้นงานเก่าแก่อันน่าดึงดูดเหนือกาลเวลา ไม่ว่าจะเป็นอัญมณี, เรือนเวลา, และวัตถุมีค่าต่างๆ ให้กับเหล่านักสะสม โดยการสรรค์สร้างชิ้นงานในแต่ละชิ้นที่ได้ถูกคัดเลือกจะได้รับการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญของเมซงก่อนจะนำไปบูรณาการอย่างพิถีพิถันโดยช่างฝีมือผู้ชำนาญการโดยมีจดหมายเหตุเป็นเครื่องมือชิ้นสำคัญในการมอบชีวิตใหม่แก่ชิ้นงานอันแสนเลอค่าเหล่านี้
กำไลข้อมือ TIGER เสือปองแตร์สองตัวถูกประดับด้วยการฝังเพชรสีเหลืองแบบพาเว่ซึ่งมอบความหรูหราไปทั่วตัวเรือน โดยลวดลายสีดำที่พาดอยู่ทั่วลำตัวและจมูกถูกประดับด้วย โอนิกซ์ ในขณะที่ดวงตาประดับด้วยอัญมณีล้ำค่าอย่างมรกตในรูปทรงรีสวยงาม อีกทั้งยังมีการออกแบบบานพับด้านข้างที่ช่วยในการสวมใส่กำไลข้อมือชิ้นนี้โดยนับว่าเป็นการออกแบบที่สมบูรณ์ ลงนาม: 1979, Cartier Paris | |
สร้อยคอ และจี้รูปทรงโล่ จี้รูปทรงโล่ที่ถอดออกได้ของสร้อยเส้นนี้ประดับพาเว่ด้วยเพชรทั่วตัวเรือน พร้อมเสริมความโอ่อ่าด้วยเพชรอันเก่าแก่ขนาดใหญ่ที่ถูกเจียระไนแบบยุโรปด้วยกันสองเม็ด ด้านข้างและด้านหลังของสร้อยคอต่างประดับด้วยบักเกิลเพชรและข้อต่อรูปตัว D ที่เชื่อมเข้าหากัน แต่เดิมสร้อยคอเส้นนี้ได้ถูกรวมเป็นส่วนหนึ่งของกำไลข้อมือที่สามารถถอดออกได้โดยตัวล็อกทั้งสองด้านที่มีอยู่ด้านข้างชวนให้ระลึกถึงความเอนกประสงค์ของการใช้งานเครื่องประดับในยุคสมัยก่อนได้เป็นอย่างดี โดยสร้อยเส้นนี้ถูกสร้างสรรค์ขึ้นเป็นพิเศษสำหรับสมาชิกของเหล่าขุนนางอังกฤษ ลงนาม: 1928, Cartier Ld London. |
AUSTRALIAN INSPIRATION
ความใคร่รู้และรสนิยมของคาร์เทียร์ที่มีต่อโลกใบนี้ได้ทำให้คาร์เทียร์ได้พบกับความอุดมสมบูรณ์ทางด้านวัฒนธรรมที่แตกต่างอยู่เสมอ ซึ่งการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างมนุษยศาสตร์, ศิลปะ, และบรรยากาศที่แปลกใหม่และสไตล์ของเมซงได้เผยให้เห็นถึงความงดงามและความวิจิตรอันเป็นเอกลักษณ์ของโลกใบนี้
สร้อยคอ โอปอลสีขาว 103.780 กะรัตจากประเทศออสเตรเลียโอปอลทั้ง 48 เม็ดบนสร้อยเส้นนี้มีความงดงามที่แตกต่างกันไปตามความหลากหลายของสีซึ่งขึ้นอยู่กับมุมของอัญมณีแต่ละชิ้น โดยมีตั้งแต่สีฟ้าบริสุทธิ์หรือสีฟ้าอมม่วง สีส้ม สีเหลือง สีเหลืองอมเขียวไปจนถึงสีเขียวแกมน้ำเงิน ซึ่งโอปอลเหล่านี้เดิมเป็นสีขาวโปร่งแสงที่มาพร้อมคุณสมบัติในการเล่นสีที่สวยงามซึ่งเป็น อัญมณีที่จะพบเป็นเซ็ตเดียวกันได้ยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งขนาดของโอปอลในเซ็ตนี้ที่มีความเล็กใหญ่เท่าๆ กัน โดยโอปอลเหล่านี้ได้มีต้นกำเนิดมาจากแหล่งโอปอลที่สมบูรณ์ที่สุดอย่างประเทศออสเตรเลีย ซึ่งโอปอลที่ถูกพบมักจะมาในสีขาวและสีดำเป็นส่วนใหญ่ | |
เรือนเวลาชั้นสูง / โอปอลและมรกตประดับเรือนเวลาข้อมือชั้นสูง ชิ้นงานสมัยใหม่ชิ้นนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเครื่องประดับผมของเจ้าหญิง Andress ในปี ค.ศ. 1934 โดยได้เล่นกับการออกแบบที่ตรงข้ามกันผ่านความกลมมนของลวดลายผสานเข้ากับสายนาฬิกาที่มีความตรงและประดับไปด้วยอัญมณีที่มีความอ่อนโยนละมุนละม่อมของโอปอลและมรกตที่ถูกแกะสลักซึ่งเข้ากันได้เป็นอย่างดี | |
สร้อยคอ OCELLEนกยูงคือสัตว์ที่เรียกได้ว่าเป็นหัวใจของคาร์เทียร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสวยงามของเส้นขนในโทนสีเขียวและสีน้ำเงิน และลวดลายของนกยูงอันเป็นสัญลักษณ์เฉพาะของเมซงที่ได้รับการเชิดชูให้โดดเด่นด้วยโอปอลสองชิ้นและเพิ่มความลงตัวของเฉดสีให้มากยิ่งขึ้นด้วยมรกตจากแซมเบีย โดยนอกเหนือจากพาเลตต์สีแล้ว สร้อยคอชิ้นนี้ยังได้ถ่ายทอดดีไซน์ของนกยูงผ่านการออกแบบลวดลายที่มีรูปทรงเรียวแหลมเหมือนขนนกจำนวนมาก ซึ่งองค์ประกอบเหล่านี้ได้สร้างสรรค์ขึ้นอย่างมีสไตล์และเกือบจะเป็นจุลศาสตร์ Ocelli หรือตาบนหางของนกยูงได้ถูกแสดงผ่านการจัดเรียงกราฟิกซึ่งโดดเด่นไปด้วยสัมผัสอันแสนประณีตของแลคเกอร์สีดำอันให้ความรู้สึกถึงการแพร่กระจายของสี ความเคลื่อนไหวอย่างเป็นจังหวะของการจัดเรียงอัญมณี เอฟเฟกต์ของรูปทรงเลขาคณิตและการเปล่งประกายของสีสันอันงดงาม ส่วนหนึ่งของสร้อยคอเส้นนี้สามารถสวมใส่เป็นเข็มกลัดได้เช่นเดียวกัน |
SPECIAL ORDER
การสั่งทำชิ้นงานพิเศษถือเป็นโอกาสของลูกค้าคนสำคัญของคาร์เทียร์ที่ได้สัมผัสและดื่มด่ำไปกับประสบกาณ์เหนือระดับอย่างแท้จริง และสำหรับการเฉลิมฉลองในครั้งนี้นักออกแบบไฮจิวเวลรีของเมซงได้ร่างภาพของเครื่องประดับชั้นสูงที่รอการสร้างสรรค์ให้สมบูรณ์ทั้งหมดสองชิ้นด้วยกัน นอกจากเสือปองแตร์ที่เป็นสัญลักษณ์อันโดดเด่นของเมซง แรงบันดาลใจในการรังสรรค์เครื่องประดับจากสัตว์ของคาร์เทียร์ยังประกอบไปด้วยสัตว์อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นจระเข้, นกฟลามิงโก้, งู, สุนัขพันพุดเดิ้ล, แอนติโลป, และจิงโจ้ ซึ่งคาร์เทียร์ได้ค้นพบตัวอย่างสัตว์ป่าที่เป็นที่รู้จักของประเทศออสเตรเลียหลากหลายชนิดในจดหมายเหตุของคาร์เทียร์ โดยในปี 1905 คาร์เทียร์ได้สร้างสรรค์เครื่องประดับในรูปร่างของคู่จิงโจ้สองตัว ตัวหนึ่งจากอาเกตสีเทาและอีกตัวหนึ่งจากเนไฟร์ต รายล้อมไปด้วยเพชรที่ถูกแกะสลักเป็นรูปดอกกุหลาบ และเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองไฮจิวเวลรีที่ซิดนีย์ในครั้งนี้ คาร์เทียร์ออกแบบเครื่องประดับในดีไซน์จิงโจ้และ โคอาล่า ดีไซน์ขึ้นโดยยึดโอปอลจากออสเตรเลียเป็นหัวใจหลักและสรรหาอัญมณีที่สีสันเข้ากันกับโอปอลเม็ดหลักได้อย่างลงตัว
เข็มกลัด KOALA เข็มกลัดโคอาล่าไวท์โกลด์ที่ประดับไปด้วยเพชรสีขาวที่และสปิเนลสีเทาที่ถูกเจียระไนอย่างประณีตแบบ Brilliant-cut โดยตัวโคอาล่ากำลังโอบอุ้มมรกตขนาด 2.61 กะรัตที่ถูกเจียระไนให้เป็นรูปแตงโมและกิ่งยูคาลิปตัส ในขณะที่ตาและจมูกอันแสนดำขลับได้ถูกประดับไอด้วยโอนิกซ์ เกี่ยวกับโอปอล: โอปอลขนาด 3.22 กะรัตจากประเทศออสเตรเลีย มีพื้นหลังที่โปร่งแสง มาในวอลลุมที่สวยงามและเป็นเนื้อเดียวกัน โดยมีความแวววาวของเฉดสีที่หลากหลายตั้งแต่สีม่วงจนถึงสีเขียว | |
เข็มกลัด KANGAROO เข็มกลัดจิงโจ้โรสโกลด์ประดับไปด้วยเพชรเม็ดงามสีขาวและสีน้ำตาลที่ถูกเจียระไนอย่างประณีตแบบ Brilliant-cut ซึ่งได้กำลังถือเพชรแซฟไฟร์ขนาด 2.20 กะรัตสีชมพูที่ถูกเจียระไนเป็นรูปดาว โดยมีโอนิกซ์สีดำขลับถูกประดับในส่วนของจมูกและตา พร้อมทั้งยังวางหินออบซิเดียนประดับไว้ใต้แท่น เกี่ยวกับโอปอล: โอปอลขนาด 1.25 กะรัตจากประเทศออสเตรเลีย โดยอัญมณีได้แสดงให้เห้นถึงสเปกตรัมของสีที่มีความกลมกลืนกันอย่างลงตัวตั้งแต่สีม่วงจนถึงสีแดง โดยอัญมณีชิ้นนี้ถูกเลือกเนื่องจากความแตกต่างระหว่างพื้นหลังสีขาวและสีแดงที่ชัดเจน (ซึ่งเป็นสีที่หายากและเป็นที่ต้องการที่สุดของโอปอล) |
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคาร์เทียร์ โปรดเยี่ยมชม WWW.CARTIER.CO.TH
หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Cartier Thailand
LINE Official Account @CartierTH หรือสแกน QR Code